ร้อยไหมซีรีย์ตา “ร้อยไหมยกกระชับรอบดวงตา / ปลายตา”
แก้ปัญหาหนังตาตก ชั้นตาไม่เท่ากัน ตาสองชั้นหลบใน หางคิ้วตก ถุงใต้ตาหย่อนคล้อย
ร้อยไหมรอบดวงตา คืออะไร
คือนวัตกรรมการรักษาหนังตาตกและถุงใต้ตา โดยไม่ต้องผ่าตัด ด้วยไหมเส้นคู่ชนิดที่พิเศษสำหรับใช้บริเวณรอบดวงตาโดยเฉพาะ คิดค้นโดยนพ. อนันต์ ดีศรีวงศ์ (หมอไก่) ที่ พอสส์ คลินิก ที่เดียวในประเทศไทย
แตกต่างกับการผ่าตัดแก้ตาตกอย่างไร
• การร้อยไหมบริเวณรอบดวงตา/ปลายตา ไม่ใช่เป็นการผ่าตัด หลังทำจึงไม่ต้องพักฟื้น
• ไม่เกิดความเสี่ยงเหมือนการผ่าตัดบริเวณดวงตา อาทิเช่น ทำให้ตาสองข้างไม่เท่ากัน เกิดพังผืด และที่ร้ายแรงที่สุดคือ ตาปลิ้น ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่ผ่าตัดหนังตาออกมากเกินไปเพียงเล็กน้อย ทำให้ตาปิดไม่สนิท ทำให้มีโอกาสตาบอด หรือเสียโฉมอย่างร้ายแรงได้
ร้อยไหมรอบดวงตา/ ปลายตา อยู่ได้นานเท่าใด
ประมาณ 1–2 ปี ซึ่งถ้าดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ ก็สามารถอยู่ได้นานไม่ต่ำกว่า 2 ปี
การร้อยไหมบริเวณรอบดวงตา/ ปลายตา มีความปลอดภัยหรือไม่
เทคนิคนี้มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากไหมที่ใช้กับ ร้อยไหมรอบดวงตา-ปลายตา เป็นไหมละลายประเภทหนึ่ง ( แต่ไม่เหมือนไหมละลายประเภทPDO ทั่วไป) ผ่าน อย. ของไทยและเกาหลีเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม
มีผลข้างเคียงบ้างหรือไม่
มีบ้างคืออาจจะมีการบวมบริเวณเปลือกตา หรือใต้ตา ประมาณ 1-2 วัน แต่หลังจากนั้นจะหายเป็นปกติ ยกเว้นในคนที่ตกตกมาก หรือ ชั้นตาหนา คุณหมอจะเน้นให้มากเป็นพิเศษ อาจมีการเขียวช้ำได้ ซึ่งจะหายไปเองภายใน 1 สัปดาห์
คุณสมบัติเด่นเฉพาะของ ร้อยไหมรอบดวงตา-ปลายตา คืออะไร
• เห็นผลหลังทำเสร็จทันที
• ดวงตาโตขึ้น หนังตาที่ตกลง จะค่อยๆ ยกขึ้นอีก ภายในระยะเวลา 2 เดือน
• ดวงตาจะดูสวยขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
• เหมาะสำหรับคนที่อยู่ในวัยตั้งแต่ 30-80 ปี
• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น หลังทำสามาถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ
• เป็นเทคนิคที่ปลอดภัย ไหมจะสลายไปได้เองตามธรรมชาติ ไม่เกิดการตกค้างในร่างกาย
• ทำการรักษาโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์และความชำนาญด้านการร้อยไหมเป็นอย่างดี
• หลังทำการรักษา 2 เดือน จะมีบริการติดตามผลการรักษาอีก 1 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์การรักษาที่ดีที่สุดแก่คนไข้
การปฏิบัติตัวหลังทำการร้อยไหมบริเวณรอบดวงตา/ปลายตา
1. เลี่ยงการใช้สารที่มีส่วนผสมของ BHA, AHA และ Retinoid 2 สัปดาห์
2. เลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ 2 วัน หลังการร้อยไหมยกกระชับ
3. เลี่ยงการออกกำลังกายจัดๆ การอยู่ในที่ร้อน เช่น ซาวหน้า อบไอน้ำ และเลี่ยงแดดจ้า
4. งดทานยาหรือวิตามินที่ทำให้เลือดออกเช่น แอสไพริน Vitamin E, ใบแป๊ะก๊วย
5. งดการทำ Treatment ทุกชนิดบนใบหน้าเป็นเวลา 2 สัปดาห์
6. กลับมาพบแพทย์เพื่อติดตามผลการรักษาตามเวลานัดทุกครั้ง
7. ทานยาที่ทางคลินิกจัดไว้ให้ครบ หากลืมให้ทานมื้อต่อไปทันที
8. หากมีอาการบวมระบมให้ทานยาได้เฉพาะ Paracetamol หรือ Tylenol เท่านั้น